นวัตกรรม กับ ผลไม้ไทย
เกษตรกรรมเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประเทศไทย และ วิถีชีวิตของคนไทยมาเป็นเวลายาวนาน แม้ปัจจุบัน จะมีกานำเอาอุตสาหกรรมต่างๆเข้ามาผลิตในประเทศไทย และ คาดหวังให้ประเทศไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรม แต่เราก็มิอาจปฏิเสธได้ว่า สินค้าหลักของประเทศไทยยังคงเป็น สินค้าเกษตรกรรม
ปัจจุบันการแข่งขันการค้าของโลกได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การที่จะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้นั้น จำเป็นที่จะต้องสร้างคุณค่าใหม่ๆให้แก่สินค้า เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ และ สร้างความต้องการใหม่ๆให้แก่ลูกค้า เช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ได้ทำการปรับโครงสร้าง กระบวนการผลิต และการจัดจำหน่าย และ มุ่งสู่การพัฒนาการเกษตรให้อยู่ในรูปแบบเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและการจัดการสมัยใหม่
ดังนั้นจึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตรต่างๆให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น เช่น ข้าวขึ้นน้ำไวต่อช่วงแสง (Photosensitive floating rice) ซึ่งเป็นการพัฒนาให้ข้าวสามารถอยู่ในพื้นที่นํ้าท่วมขังที่ระดับ 1-5 เมตร ได้เป็นระยะเวลา 1 เดือนเป็นต้น
สิ่งที่พวกเราขอนำเสนอเป็นส่วนนึงของนวัตกรรมใหม่ๆที่เกิดขึ้นกับสินค้าเกษตรของไทย ดังนี้
มะตูมยักษ์
มะตูมยักษ์ไทย เป็นสายพันธุ์ที่พบขึ้นทั่วไปตามป่าเบญจพรรณ ป่าโปร่ง และป่าดิบแล้ง
ทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งเป็นผลไม้ที่นิยมปลูกกันมากในยุคโบราณ แต่ในปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นผลไม้หายาก เพิ่งจะมีผู้ขยายพันธุ์นำต้นวางขายพร้อมมีผลจริงโชว์ให้ชมเมื่อไม่นานมานี้ โดยรูปทรงของผล “มะตูมยักษ์ไทย” จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ ผลจะกลมรีต่างจากผลมะตูมยักษ์ที่เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศที่จะเป็นทรงกลมแป้น แต่ขนาดผลจะมีขนาดใหญ่มหึมาเช่นเดียวกัน
สรรพคุณ ทางสมุนไพรของ “มะตูมยักษ์ไทย” ใช้ได้เช่นเดียวกับมะตูมทั่วไปคือ ผลอ่อนเป็นยาบำรุงธาตุ เจริญอาหาร ขับผาย ลม ผลแก่แก้เสมหะและลม บำรุงธาตุไฟ ย่อยอาหารให้ละเอียด ผลสดกินแก้ลมเสียดแทงในท้อง แก้มูกเลือด กระตุ้นลำไส้ให้บีบตัว ใบสดคั้นน้ำกินแก้หลอดลมอักเสบ เปลือก ราก และเนื้อไม้จากต้นต้มน้ำดื่มแก้ไข้มาลาเรีย ในทางไสยศาสตร์ ใบสด ใช้ป้องกันเสนียดจัญไร ขับภูตผีปีศาจ หมอผีในยุคสมัยก่อนนิยมเอาไปทำพิธีอย่างกว้างขวาง ผลแก่ทั้งผลขูดผิวให้เกลี้ยงทุบพอร้าวต้มน้ำตาลทรายมีกลิ่นหอมรับประทานเป็นยาบำรุงธาตุ เรียกว่า “น้ำอัชบาล” เนื้อในสุกรสหวานหอมอร่อยมาก แต่เยื่อหุ้มเมล็ดจะให้รสขมเล็กน้อย
มะตูมยักษ์ไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับมะตูมทั่วไปคือ BAEL FRUIT TREE. ฯลฯ อยู่ในวงศ์ RUTACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ใบออกสลับ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด ดอกเป็นสีขาว มีกลิ่นหอมแรงและหอมไกล “ผล” มีขนาดใหญ่ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง
ทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งเป็นผลไม้ที่นิยมปลูกกันมากในยุคโบราณ แต่ในปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นผลไม้หายาก เพิ่งจะมีผู้ขยายพันธุ์นำต้นวางขายพร้อมมีผลจริงโชว์ให้ชมเมื่อไม่นานมานี้ โดยรูปทรงของผล “มะตูมยักษ์ไทย” จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ ผลจะกลมรีต่างจากผลมะตูมยักษ์ที่เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศที่จะเป็นทรงกลมแป้น แต่ขนาดผลจะมีขนาดใหญ่มหึมาเช่นเดียวกัน
สรรพคุณ ทางสมุนไพรของ “มะตูมยักษ์ไทย” ใช้ได้เช่นเดียวกับมะตูมทั่วไปคือ ผลอ่อนเป็นยาบำรุงธาตุ เจริญอาหาร ขับผาย ลม ผลแก่แก้เสมหะและลม บำรุงธาตุไฟ ย่อยอาหารให้ละเอียด ผลสดกินแก้ลมเสียดแทงในท้อง แก้มูกเลือด กระตุ้นลำไส้ให้บีบตัว ใบสดคั้นน้ำกินแก้หลอดลมอักเสบ เปลือก ราก และเนื้อไม้จากต้นต้มน้ำดื่มแก้ไข้มาลาเรีย ในทางไสยศาสตร์ ใบสด ใช้ป้องกันเสนียดจัญไร ขับภูตผีปีศาจ หมอผีในยุคสมัยก่อนนิยมเอาไปทำพิธีอย่างกว้างขวาง ผลแก่ทั้งผลขูดผิวให้เกลี้ยงทุบพอร้าวต้มน้ำตาลทรายมีกลิ่นหอมรับประทานเป็นยาบำรุงธาตุ เรียกว่า “น้ำอัชบาล” เนื้อในสุกรสหวานหอมอร่อยมาก แต่เยื่อหุ้มเมล็ดจะให้รสขมเล็กน้อย
มะตูมยักษ์ไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับมะตูมทั่วไปคือ BAEL FRUIT TREE. ฯลฯ อยู่ในวงศ์ RUTACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ใบออกสลับ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด ดอกเป็นสีขาว มีกลิ่นหอมแรงและหอมไกล “ผล” มีขนาดใหญ่ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง
นํ้าเต้าสี่เหลี่ยม บึงฉวาก
นํ้าเต้าสี่เหลี่ยมที่อุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี นายเชาว์ เสาวลักษณ์ ผู้อำนวยการอุทยานผักพื้นบ้านบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ อธิบายให้ฟังพร้อมโชว์น้ำเต้าสี่เหลี่ยมที่ทำแล้วเสร็จว่า "น้ำเต้ามีอยู่หลายชนิด มีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่ ที่สามารถนำมาทำเป็นน้ำเต้าสี่เหลี่ยม หรือน้ำเต้ารูปทรงเรขาคณิตได้มีน้ำเต้าอยู่จำนวน 3 ชนิด คือ น้ำเต้าพื้นบ้าน น้ำเต้าเน่งบาร์ และน้ำเต้าทรงลูกจันทร์ ซึ่งมีลักษณะเล็กและเหมาะสมเท่าที่ทดลองมาแล้ว ทั้ง 3 อย่างนี้ได้ผลดี"
วิธีการเริ่มต้นด้วยการปลูกเลี้ยงน้ำเต้าแบบสมบูรณ์ใช้ได้ทั้งปลูกในกระถาง หรือ ปลูกลงดินก็ได้ปลูกดูแลใส่ปุ๋ยไม่นานก็จะเริ่มออกผลเมื่อแน่ใจว่าติดผลแล้ว จึงเลือกผลที่อยู่ในตำแหน่งเหมาะสม และ ไม่มีแมลงรบกวน แล้วก็หากล่องรูปทรงเรขาคณิตตามชอบมาใส่ลูกน้ำเต้าแต่ต้องเป็นกล่องที่มีรูปร่างลักษณะใส ลองแบบทึบแล้วเน่าใช้ไม่ได้ต้องใส่ให้แสงแดดสามารถผ่านเข้าไปด้านในได้ อย่างกล่องใส่ผลไม้รูปร่างต่างๆ ที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาด ต้องทำการเจาะรูระบายน้ำระบายอากาศได้ทั้งด้านบนและล่าง เพื่อป้องกันเชื้อราและเน่าจากนั้นดูแลไปจนถึง 90-120 วัน แล้วแต่อายุและชนิดของพันธุ์น้ำเต้า เมื่อได้รูปตามลักษณะที่ต้องการจึงนำเอากล่องออกแล้วจะได้น้ำเต้าก็จะออกมาเป็นทรงตามกล่องที่ใส่
วิธีการเริ่มต้นด้วยการปลูกเลี้ยงน้ำเต้าแบบสมบูรณ์ใช้ได้ทั้งปลูกในกระถาง หรือ ปลูกลงดินก็ได้ปลูกดูแลใส่ปุ๋ยไม่นานก็จะเริ่มออกผลเมื่อแน่ใจว่าติดผลแล้ว จึงเลือกผลที่อยู่ในตำแหน่งเหมาะสม และ ไม่มีแมลงรบกวน แล้วก็หากล่องรูปทรงเรขาคณิตตามชอบมาใส่ลูกน้ำเต้าแต่ต้องเป็นกล่องที่มีรูปร่างลักษณะใส ลองแบบทึบแล้วเน่าใช้ไม่ได้ต้องใส่ให้แสงแดดสามารถผ่านเข้าไปด้านในได้ อย่างกล่องใส่ผลไม้รูปร่างต่างๆ ที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาด ต้องทำการเจาะรูระบายน้ำระบายอากาศได้ทั้งด้านบนและล่าง เพื่อป้องกันเชื้อราและเน่าจากนั้นดูแลไปจนถึง 90-120 วัน แล้วแต่อายุและชนิดของพันธุ์น้ำเต้า เมื่อได้รูปตามลักษณะที่ต้องการจึงนำเอากล่องออกแล้วจะได้น้ำเต้าก็จะออกมาเป็นทรงตามกล่องที่ใส่
มะขามยักษ์ไทย
มะขามยักษ์ การพัฒนาทางด้านผลผลิตทางการเกษตรของคนไทย ที่ยังไม่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากนัก โดยมะขามเปรี้ยวยักษ์ที่เราเสนอนี้เป็นของ ไร่วิรัชจรัลวงศ์ ตำบลทัพหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม มีคุณชุมพลเป็นเจ้าของ
ทำไมถึงต้องมะขามยักษ์
1.มะขามเปรี้ยวยักษ์พันธุ์นี้เป็นไม้ผลที่มีดี 4 ด้าน คือเป็นผลไม้ที่มีวงจรอายุยาวในหลายๆด้าน เช่นการตลาด การผลิต และสามารถเก็บเกี่ยวได้ในหลายๆชนิด ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะทำให้ เกษตรกรอยู่รอด นั่นเอง ประกอบด้วย
- เป็นไม้ผลที่ใช้ต้นทุนในการผลิตต่ำ
- เป็นไม้ผลที่สุกแล้วไม่จำเป็นต้องรีบขาย
- เป็นไม้ผลที่สามารถแปรรูปได้มากมาย
- เป็นไม้ผลที่สามารถส่งออกได้ และมีความต้องการของตลาดต่างประเทศสูง
2.มะขามเป็นพืชที่ขึ้นได้ในเขตร้อนชื้น ประเทศที่สามารถปลูกมะขามได้เหมาะสมมีไม่กี่ประเทศ แต่ความต้องการใช้และบริโภคนั้นกลับมามากในหลายประเทศของโลก หนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทย ที่สำคัญประเทศไทยยังมีความสามารถทางการเกษตรเป็นอันดับต้นๆของโลก
3.มะขามเปรี้ยวยักษ์เป็นพันธุ์ที่มีความทนทานสูงต่อสภาวะต่างๆ ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย ใส่ปุ๋ย หรือยาฆ่าแมลง จึงทำให้ต้นทุนการผลิตของมะขามไม่สูง
ทำไมถึงต้องมะขามยักษ์
1.มะขามเปรี้ยวยักษ์พันธุ์นี้เป็นไม้ผลที่มีดี 4 ด้าน คือเป็นผลไม้ที่มีวงจรอายุยาวในหลายๆด้าน เช่นการตลาด การผลิต และสามารถเก็บเกี่ยวได้ในหลายๆชนิด ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะทำให้ เกษตรกรอยู่รอด นั่นเอง ประกอบด้วย
- เป็นไม้ผลที่ใช้ต้นทุนในการผลิตต่ำ
- เป็นไม้ผลที่สุกแล้วไม่จำเป็นต้องรีบขาย
- เป็นไม้ผลที่สามารถแปรรูปได้มากมาย
- เป็นไม้ผลที่สามารถส่งออกได้ และมีความต้องการของตลาดต่างประเทศสูง
2.มะขามเป็นพืชที่ขึ้นได้ในเขตร้อนชื้น ประเทศที่สามารถปลูกมะขามได้เหมาะสมมีไม่กี่ประเทศ แต่ความต้องการใช้และบริโภคนั้นกลับมามากในหลายประเทศของโลก หนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทย ที่สำคัญประเทศไทยยังมีความสามารถทางการเกษตรเป็นอันดับต้นๆของโลก
3.มะขามเปรี้ยวยักษ์เป็นพันธุ์ที่มีความทนทานสูงต่อสภาวะต่างๆ ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย ใส่ปุ๋ย หรือยาฆ่าแมลง จึงทำให้ต้นทุนการผลิตของมะขามไม่สูง
ผลผลิตจากมะขามยักษ์
ยอดอ่อน
สามารถเก็บขายได้ทั้งปี แต่ต้องรดน้ำใส่ปุ๋ยอย่างต่อเนื่อง เก็บขายได้ทุกวัน ยอดอ่อนมะขามโดยปรกติแล้วจะไม่มีคนปลูกเก็บเป็นอาชีพเพราะ มะขามปรกติ จะมีต้นสูงใหญ่ ยอดสั้น น้ำหนักเบา และจะเก็บกินได้ปีละครั้ง แต่ถ้าเป็นยอดมะขามยักษ์นั้น ทำต้นให้เตี้ยระดับความสูงที่ 1เมตร เก็บง่าย ยอดยาว น้ำหนักดีเก็บขายได้ทั้งปี เป็นพืชผักที่ได้จากธรรมชาติไม่ ต้องพึ่งสารเคมี
สามารถเก็บขายได้ทั้งปี แต่ต้องรดน้ำใส่ปุ๋ยอย่างต่อเนื่อง เก็บขายได้ทุกวัน ยอดอ่อนมะขามโดยปรกติแล้วจะไม่มีคนปลูกเก็บเป็นอาชีพเพราะ มะขามปรกติ จะมีต้นสูงใหญ่ ยอดสั้น น้ำหนักเบา และจะเก็บกินได้ปีละครั้ง แต่ถ้าเป็นยอดมะขามยักษ์นั้น ทำต้นให้เตี้ยระดับความสูงที่ 1เมตร เก็บง่าย ยอดยาว น้ำหนักดีเก็บขายได้ทั้งปี เป็นพืชผักที่ได้จากธรรมชาติไม่ ต้องพึ่งสารเคมี
ฝักอ่อน
ฝักอ่อนของมะขามยักษ์ ประมาณเนื้อจะอยู่ที่ 80% ของน้ำหนักฝัก ปัจจุบันได้นำไปทำมะขามผงเพื่อนำไปผลิตเป็นซุปมะขามส่งขายต่างประเทศ โดยขั้นตอนจะนำมะขามฝักอ่อนมา สไลด์บางๆ แล้วนำมาอบให้แห้งแล้วบดเป็นผง ก็จะได้มะขามผงแบบ 100 % ซึ่งวัตถุดิบตัวนี้ถือเป็นเกรด A
ฝักอ่อนของมะขามยักษ์ ประมาณเนื้อจะอยู่ที่ 80% ของน้ำหนักฝัก ปัจจุบันได้นำไปทำมะขามผงเพื่อนำไปผลิตเป็นซุปมะขามส่งขายต่างประเทศ โดยขั้นตอนจะนำมะขามฝักอ่อนมา สไลด์บางๆ แล้วนำมาอบให้แห้งแล้วบดเป็นผง ก็จะได้มะขามผงแบบ 100 % ซึ่งวัตถุดิบตัวนี้ถือเป็นเกรด A
ฝักดิบ
ฝักดิบพันธุ์นี้เป็นที่ต้องการของตลาดมาก เพราะฝักใหญ่ ได้เนื้อมาก น้ำหนักดี ปลอกง่าย ผลผลิตที่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด เพราะ
1.ลูกค้าส่วนมากจะชอบหรือต้องการมะขามฝักใหญ่
2. ต้องการมะขามที่ปลอกง่าย ๆคือ เปลือกต้องบาง และ เส้นใยต้องใหญ่
3.ต้องการมะขามที่มีความเปรี้ยวมากๆ เพราะมะขามจะนำไปทำอาหารแปรรูปได้ 2ชนิดคือ มะขามดอง และ มะขามแช่อิ่ม มะขามเปรี้ยวยักษ์พันธุ์นี้ความเปรี้ยวเป็นสองเท่าของมะขามปรกติเลยทีเดียว จึงทำให้เวลาไปแปรรูปเป็นมะขามแช่อิ่มได้อร่อยมากใน 1ปี เราจะเห็นมะขามดองหรือแช่อิ่มอยู่ ประมาณ 3 เดือนเท่านั้น อีก 9 เดือนจะหาทานได้น้อยมากๆ
1.ลูกค้าส่วนมากจะชอบหรือต้องการมะขามฝักใหญ่
2. ต้องการมะขามที่ปลอกง่าย ๆคือ เปลือกต้องบาง และ เส้นใยต้องใหญ่
3.ต้องการมะขามที่มีความเปรี้ยวมากๆ เพราะมะขามจะนำไปทำอาหารแปรรูปได้ 2ชนิดคือ มะขามดอง และ มะขามแช่อิ่ม มะขามเปรี้ยวยักษ์พันธุ์นี้ความเปรี้ยวเป็นสองเท่าของมะขามปรกติเลยทีเดียว จึงทำให้เวลาไปแปรรูปเป็นมะขามแช่อิ่มได้อร่อยมากใน 1ปี เราจะเห็นมะขามดองหรือแช่อิ่มอยู่ ประมาณ 3 เดือนเท่านั้น อีก 9 เดือนจะหาทานได้น้อยมากๆ
ฝักแก่
ฝักแก่สำหรับส่งออกโดยตร หลายๆประเทศสั่งซื้อมะขามเปรี้ยวทั้งฝักแบบเปลือกไม่แตก ไปวางขายให้ซื้อเหมือนซื้อผลไม้อื่นๆทั่วไป และมีบริษัทต่างประเทศที่ต้องการเนื้อมะขามบริสุทธิ์ 100 % เขาจะสั่งมะขามแก่ทั้งฝักแล้วไปปลอกเอง ซึ่งขั้นตอนนี้ควรจะต้องอยู่ในโรงงานที่มีมาตรฐาน และมีความสะอาดสูง
มะขามเปียก
การเก็บผลผลิตระยะสุดท้าย ของการขายมะขามยักษ์ ตลาดมีความต้องการมาก เพราะมะขามเปียกในประเทศไทย มีคุณภาพดีติดอันดับโลกเลย มะขามเปียกในปัจจุบันที่ชาวบ้านรู้จักคือนำไปทำอาหาร แกงส้ม ต้มยำน้ำพริก และ มะขามแก้ว น้ำมะขาม แต่ นอกเหนือจากนั้นมะขามเปรี้ยวนั้นสามารถนำไปสกัดเป็นกรด ทาทาร์ลิค และแพคติน ที่ได้จากธรรมชาติ นำไปใช้ในระบบอุตสาหกรรมทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น เครื่อง ดื่ม โค้ก เป็ปซี่ กระทิงแดง ก็ใช้ตัวนี้ โรงงานฟอกหนัง เครื่องสำอาง สปา ยา สมุนไพร ต่าง และอีกมากมาย
มะขามเปียกมีตลาดส่งออกที่กว้างมากๆ และเป็นที่ต้องการในหลายๆประเทศ เพราะมีไม่กี่ประเทศที่มีสภาพอากาศและพื้นที่ที่สามารถปลูกมะขามได้ ตลาดส่งออกโดยเฉพาะตะวันออกกลาง จะเป็นตลาดที่ใหญ่มากๆ เพราะมะขามเปียกจำเป็นมากในประเทศทางตะวันออกกลางหรือแถบที่มีทะเลทรายเพราะ มีสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง เดินไปมาก็ต้องอยู่บนทะเลทราย มนุษย์เราคอแห้งไม่ได้ ฉะนั้นประชาชนของประเทศนี้ ถ้าเค้าต้องเอาน้ำติดตัวไป ตลอดก็ อาจมีภาระหรือลำบาก และน้ำอาจมีน้อยหรือไม่พอ เขาจึงใช้วิธีพก มะขามเปียกแทน
มะขามเปียกมีตลาดส่งออกที่กว้างมากๆ และเป็นที่ต้องการในหลายๆประเทศ เพราะมีไม่กี่ประเทศที่มีสภาพอากาศและพื้นที่ที่สามารถปลูกมะขามได้ ตลาดส่งออกโดยเฉพาะตะวันออกกลาง จะเป็นตลาดที่ใหญ่มากๆ เพราะมะขามเปียกจำเป็นมากในประเทศทางตะวันออกกลางหรือแถบที่มีทะเลทรายเพราะ มีสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง เดินไปมาก็ต้องอยู่บนทะเลทราย มนุษย์เราคอแห้งไม่ได้ ฉะนั้นประชาชนของประเทศนี้ ถ้าเค้าต้องเอาน้ำติดตัวไป ตลอดก็ อาจมีภาระหรือลำบาก และน้ำอาจมีน้อยหรือไม่พอ เขาจึงใช้วิธีพก มะขามเปียกแทน
เม็ดมะขาม
เม็ดมะขามสามารถขายได้ หรือเอาไปทำอะไรได้ บางจังหวัดในประเทศไทยใช้คั่วรับประทานเล่น แต่มีอีกหลายประเทศที่ใช้ตัวนี้เช่น ญี่ปุ่น ได้นำเม็ดมะขามมาขัดสีและบดเป็นผง นำไปเป็นส่วนผสม ทำกาว แป้ง แคปซูลยา ทำสีย้อมผ้า ทำกาแฟ และอื่นๆอีกมากมาย